วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553

หน้าที่ของลูกที่ดี






"ผู้ใดทำมารดาบิดาให้ตั้งอยู่ในคุณความดี
มีศรัทธา ศีล จาคะ ปัญญา ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้
บุตรนั้นชื่อว่า กระทำการตอบแทนบุญคุณแก่บิดามารดาแล้ว"


พ่อแม่เป็นผู้มีพระคุณอย่างที่สุดของลูก นับตั้งแต่เป็นต้นแบบที่ดีของลูก คือเป็นผู้ให้รูปร่างมนุษย์ที่เหมาะสมในการสร้างความดีทุกรูปแบบ ดังนั้นแม้พ่อแม่จะไม่เลี้ยงดูบุตรก็ได้ชื่อว่ามีพระคุณอยู่แล้ว และถ้าท่านเลี้ยงดู ทำหน้าที่ของพ่อแม่ดีที่สุดอย่างสมบูรณ์แบบ พระคุณของท่านก็จะยิ่งมากมายสุดจะนับจะประมาณได้

พ่อแม่เป็นผู้ให้อภัยแก่ลูกอยู่เสมอ ไม่ผูกโกรธ แม้จะดุด่าว่ากล่าวหรือเฆี่ยนตีลูกบ้าง ก็เป็นเพราะความรัก ความห่วงใย ต้องการสั่งสอนให้ลูกเป็นคนดี ทุกครั้งที่ไม้เรียวกระทบเนื้อลูก เชื่อเถอะว่ามันเหมือนมีมีดกรีดลงบนหัวใจของพ่อแม่ด้วย ในโลกนี้ไม่มีใครที่รักลูก เป็นมิตรแท้ต่อลูกเหมือนพ่อแม่ เพราะท่านคิดแต่จะให้เพียงอย่างเดียว ลูกๆ ไม่ต้องหวาดระแวงเลยว่าพ่อแม่จะทรยศหักหลังเหมือนคนอื่น

พระคุณของพ่อแม่มีมากมายเกินกว่าจะตอบแทนได้หมด ลูกที่ดีต้องสำนึกในพระคุณของพ่อแม่ให้เปี่ยมล้นในใจอยู่เสมอ ปฏิบัติต่อท่านให้ดีที่สุด ให้สมกับที่ท่านเป็นพระในบ้าน หน้าที่ของลูกที่ควรปฏิบัติต่อพ่อแม่ กล่าวโดยย่อ คือ

๑. คอยดูแลท่านให้ดีตั้งแต่เรื่องอาหารเสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย ยามเจ็บป่วยก็ช่วยพยาบาลรักษาให้ดีที่สุด ทำให้สม่ำเสมอตราบจนวาระสุดท้ายของท่าน
๒. ประพฤติตนเป็นคนดี สร้างชื่อเสียงให้แก่วงศ์ตระกูลให้พ่อแม่ภาคภูมิใจ
๓. ประพฤติตนให้เหมาะสมกับการที่จะเป็นผู้รับมรดก
๔. ทำกิจการงานแทนท่านไม่ให้บกพร่อง
๕. ชักชวนหรืออำนวยความสะดวก สนับสนุนให้ท่านได้มีโอกาสทำทานรักษาศีล เจริญภาวนาจะได้เป็นบุญติดตัวท่านไปในภพเบื้องหน้า เป็นการถากถางทางไปสู่พระนิพพานของท่านเอง หน้าที่นี้เป็นหน้าที่สำคัญที่สุดที่ลูกทุกคนต้องปฏิบัติต่อพ่อแม่ แม้ที่สุดเมื่อท่านละโลกไปแล้วก็ต้องทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้ท่านอย่างสม่ำเสมออีกงบหนึ่งด้วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น