วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553

แง่คิดเกี่ยวกับ.. ความรัก


1. คนดีๆ... ล้วนมีเจ้าของไปหมดแล้ว (เหมือนที่จอดรถ)

2. ส่วนคนที่ยังเหลืออยู่... มันก็ต้องมีเหตุผลหละนะ (ไม่เหมือนที่จอดรถ)

3. อะไรที่คุณเอะใจว่า มันจะดีเกินจริง... เป็นไปได้มากว่า มันไม่จริง

4. ความรัก ก็เหมือนการรอรถเมล์... สายที่ไม่อยากขึ้น ก็มาจัง ส่วนสายที่ต้องการจะขึ้น ก็รอไปเถอะ, พอมา ก็ไม่จอด, พอจอด ก็คนแน่น ขึ้นไม่ได้, พอขึ้นได้ รถก็ไปตายกลางทางอีก

5. ความรักก็เหมือนกับเหรียญ แหวน หรือชิ้นส่วนเล็กๆ... เพราะเมื่อไหร่ที่มันหลุดมือตกลงพื้น มันจะต้องกลิ้งไปยังซอกที่มืดที่สุด และลึกที่สุด จนเรามองไม่เห็น และเอื้อมไม่ถึง

6. รถไฟอาจจะวิ่งบนราง แต่อย่าด่วนสรุปว่า... มันวิ่งไปทางไหน โดยดูจากราง เพราะเมื่อเหลียวกลับมามองอีกที รถไฟขบวนนั้นอาจจะวิ่งผ่านคุณไปแล้วก็ได้

7. สวย หรือหล่อ... ไม่ได้อยู่ที่คำจำกัดความ แต่อยู่ที่จินตนาการ

8. ความรัก... สวนทางกับกฎฟิสิกส์ นั่นคือ เมื่อเราให้ความรักกับใครมากเท่าไหร่ เราก็จะได้รับตอบแทนกลับมาเป็นสัดส่วนผกผันกลับ

9. เมื่อไหร่ที่ฝ่ายหนึ่งบอกว่า... "เป็นเพื่อนกัน" แปลว่า 'ต้องการจะเลิกคบกัน'

10. เมื่อไหร่ที่ฝ่ายหนึ่งบอกว่า... "มีอะไรต้องคุยกัน" แปลว่า "ไม่ต้องการคุยกันอีกแล้ว"

11. ความรักทำให้คนตาบอด... การแต่งงานช่วยให้คนตาสว่าง

หน้าที่ของลูกที่ดี






"ผู้ใดทำมารดาบิดาให้ตั้งอยู่ในคุณความดี
มีศรัทธา ศีล จาคะ ปัญญา ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้
บุตรนั้นชื่อว่า กระทำการตอบแทนบุญคุณแก่บิดามารดาแล้ว"


พ่อแม่เป็นผู้มีพระคุณอย่างที่สุดของลูก นับตั้งแต่เป็นต้นแบบที่ดีของลูก คือเป็นผู้ให้รูปร่างมนุษย์ที่เหมาะสมในการสร้างความดีทุกรูปแบบ ดังนั้นแม้พ่อแม่จะไม่เลี้ยงดูบุตรก็ได้ชื่อว่ามีพระคุณอยู่แล้ว และถ้าท่านเลี้ยงดู ทำหน้าที่ของพ่อแม่ดีที่สุดอย่างสมบูรณ์แบบ พระคุณของท่านก็จะยิ่งมากมายสุดจะนับจะประมาณได้

พ่อแม่เป็นผู้ให้อภัยแก่ลูกอยู่เสมอ ไม่ผูกโกรธ แม้จะดุด่าว่ากล่าวหรือเฆี่ยนตีลูกบ้าง ก็เป็นเพราะความรัก ความห่วงใย ต้องการสั่งสอนให้ลูกเป็นคนดี ทุกครั้งที่ไม้เรียวกระทบเนื้อลูก เชื่อเถอะว่ามันเหมือนมีมีดกรีดลงบนหัวใจของพ่อแม่ด้วย ในโลกนี้ไม่มีใครที่รักลูก เป็นมิตรแท้ต่อลูกเหมือนพ่อแม่ เพราะท่านคิดแต่จะให้เพียงอย่างเดียว ลูกๆ ไม่ต้องหวาดระแวงเลยว่าพ่อแม่จะทรยศหักหลังเหมือนคนอื่น

พระคุณของพ่อแม่มีมากมายเกินกว่าจะตอบแทนได้หมด ลูกที่ดีต้องสำนึกในพระคุณของพ่อแม่ให้เปี่ยมล้นในใจอยู่เสมอ ปฏิบัติต่อท่านให้ดีที่สุด ให้สมกับที่ท่านเป็นพระในบ้าน หน้าที่ของลูกที่ควรปฏิบัติต่อพ่อแม่ กล่าวโดยย่อ คือ

๑. คอยดูแลท่านให้ดีตั้งแต่เรื่องอาหารเสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย ยามเจ็บป่วยก็ช่วยพยาบาลรักษาให้ดีที่สุด ทำให้สม่ำเสมอตราบจนวาระสุดท้ายของท่าน
๒. ประพฤติตนเป็นคนดี สร้างชื่อเสียงให้แก่วงศ์ตระกูลให้พ่อแม่ภาคภูมิใจ
๓. ประพฤติตนให้เหมาะสมกับการที่จะเป็นผู้รับมรดก
๔. ทำกิจการงานแทนท่านไม่ให้บกพร่อง
๕. ชักชวนหรืออำนวยความสะดวก สนับสนุนให้ท่านได้มีโอกาสทำทานรักษาศีล เจริญภาวนาจะได้เป็นบุญติดตัวท่านไปในภพเบื้องหน้า เป็นการถากถางทางไปสู่พระนิพพานของท่านเอง หน้าที่นี้เป็นหน้าที่สำคัญที่สุดที่ลูกทุกคนต้องปฏิบัติต่อพ่อแม่ แม้ที่สุดเมื่อท่านละโลกไปแล้วก็ต้องทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้ท่านอย่างสม่ำเสมออีกงบหนึ่งด้วย